Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วัฒนธรรมเกาหลี

ประเทศเกาหลีเป็นคาบสมุทรที่ทอดตัวลงใต้จากศูนย์กลางชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย คาบสมุทรเกาหลีประกอบด้วยพื้นที่ประมาณ 220,000 ตารางกิโลเมตรกับเกาะใหญ่น้อยประมาณ 3,400 เกาะเรียงรายตลอดชายฝั่ง

ณ เวลานี้ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังคงถูกแบ่งแยกตามภูมิศาสตร์และลัทธิการปกครอง มีประชากรทั้งหมดประมาณเจ็ดสิบล้านคนทั้งในประเทศเกาหลีเหนือและใต้ และไม่นานมานี้เองที่มีความก้าวหน้าที่เด่นชัดหลายประการในการร่วมมือและรวมประเทศเข้าด้วยกัน

คำว่า "เกาหลี" นี้ใช้อ้างอิงทั้งประเทศเกาหลีเหนือและใต้ ประเทศเกาหลีใต้ ณ ที่นี้ หมายถึงสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งมีประชากร 48 ล้านคนในจำนวนนี้ 10 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง กรุงโซลนั้นประการศักดาว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 600 ปี และในปี 1988 ก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 24 ประเทศเกาหลีเป็นเป้าแห่งความสนใจจากทั่วโลกอีกครั้งเมื่อได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศญี่ปุ่นในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2002

ประเทศเกาหลีมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาชาวเกาหลีเองได้เรียกผืนแผ่นดินแห่งนี้ว่า คึมซูกังซาน (geumsugangsan) หรือ "ผืนพรมทองแห่งแม่น้ำและภูเขา" ความน่าพิศวงของผืนแผ่นดินนี้ถ่ายทอดผ่านแต่ละช่วงฤดูกาลด้วยทัศนียภาพที่แตกต่างกันไป ภูมิอากาศของเกาหลีซึ่งแบ่งออกเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนั้นมีความแตกต่างกันมากทีเดียว คือช่วงฤดูหนาวโดยปกติจะกินเวลายาวนาน ฤดูร้อนสั้นกว่า และฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สั้นที่สุด ช่วงเวลาฝนตกจะเป็นระหว่างฤดูร้อนในช่วงเดือนมิถุนายน

ชุดแต่งกายตามประเพณีของชาวเกาหลีคือ ฮันบก (Hanbok) ชุดที่ใช้แต่งกายในฤดูหนาวนั้นใช้ผ้าที่ทอจากฝ้ายและกางเกงยาวที่มีสายรัดที่ข้อเท้าซึ่งช่วยในการเก็บความร้อนของร่างกาย ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนจะใช้ผ้าป่านลงแป้งแข็งหรือผ้ารามีซึ่งช่วยในการซึมซับและการแผ่ซ่านของความร้อนในร่างกายให้มากที่สุด

อาหารเกาหลีก็ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกับภูมิอากาศ ในภูมิภาคที่ฤดูหนาวกินเวลานาน เทคนิคการถนอมอาหารพิเศษได้ถูกวิวัฒน์ขึ้นเพื่อเก็บรักษาวิตามินในสูตรอาหารประเภทผัก กิมจิเป็นตัวอย่างอันเป็นสัญลักษณ์ของอาหารหมักดอง ความจริงที่ว่ากิมจิจะมีรสเค็มขึ้นถ้าใครนำมันจากทางเหนือที่หนาวเย็นมาสู่ทางใต้ที่อบอุ่นกว่านั้นเป็นเกี่ยวข้องกันมากกับลักษณะของอากาศ

อิทธิพลของภูมิอากาศยังบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันของเกาหลี บ้านแบบเกาหลีจะมี ออนดอล (Ondol) ซึ่งทำปฏิกิริยาภายใต้พื้นเพื่อช่วยเพิ่มความร้อนฤดูหนาว และโดยทั่วไปบ้านจะมีหลังคาต่ำ มีห้องเล็กและผนังหนา มีหน้าต่างและประตูเปิดสู่ภายน้อยซึ่งมักจะทำเป็นสองชั้น บ้านเกาหลีโบราณจะมีห้องโถงเปิดพื้นเป็นไม้ซึ่งสมาชิกในครอบครัวจะใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นี่ในช่วงฤดูร้อน ห้องสำหรับอยู่อาศัยนั้นโดยปกติจะอยู่กลางบ้านใหญ่ ห้องรับแขกจะอยู่อีกหลังต่างหาก ห้องครัวก็สร้างเป็นหลังต่างหากและถูกออกแบบให้ใช้งานได้หลายอย่างนอกจากการปรุงอาหารเพียงอย่างเดียว

เป็นเวลาไม่นานมานี้เองที่เศรษฐกิจของเกาหลีได้ถูกปฏิรูปไปเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 1960 เกาหลีได้เปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมเป็นแบบอุตสาหกรรมที่รุดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการปฏิวัติแปรเปลี่ยนไป การส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การต่อเรือ การคมนาคม และยานยนต์ซึ่งเป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศไปทั่วโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการคมนาคมและสารสนเทศนั้นเกาหลีในวันนี้ยืนอยู่แถวหน้าของโลก

ชาวเกาหลีได้สร้างวัฒนธรรมที่โดดเด่นผ่านช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมอันเด่นเฉพาะตัวก็สามารถพบได้ตลอดคาบสมุทร ชาวเกาหลีให้คุณค่ากับการเรียนรู้และมีชื่อเสียงมากในการอุทิศตนและความมุมานะอุตสาหะ บางทีอาจเป็นเพราะลักษณะเหล่านี้ก็ได้ที่ทำให้พวกเขาสามารถใช้แรงกระตุ้นทางวัฒนธรรมซึ่งนำมาประยุกต์อย่างถี่ถ้วนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

มารยาทแบบเกาหลี

1. การทักทายและการบอก ขอบคุณ เป็นเรื่องสำคัญมากของคนเกาหลี คนเกาหลีมักกล่าวคำทักทายและขอบคุณพร้อมก้มหัวคำนับเสมอ โค้งต่ำระดับไหนนั้นขึ้นอยู่กับความอาวุโสของผู้พูดทั้ง 2 ฝ่าย

2. คนเกาหลีไม่นิยมการแสดงออกโดยเปิดเผยและมักจะจำกัดการถูกเนื้อต้องตัวเพียงแค่การจับมือทักทายกันอย่างสุภาพ อย่างไรก็ตามถ้ารู้จักคนเกาหลีดีขึ้นจะเกิดความคุ้นเคยกันเพิ่มขึ้น ชาวต่างชาติอาจแปลกใจที่เป็นผู้ชายโดยเฉพาะชายหนุ่มเดินตามถนนจับมือโอบไหล่กัน หรือผู้หญิงเดินจับมือกันการสัมผัสร่างกายเพื่อนสนิทขณะที่คุยกันถือว่ายอมรับกันได้ในประเทศเกาหลี แต่การแสดงความรักระหว่างเพศในที่สาธารณะ เช่น กอดและจูบถือว่าไม่สมควร

3. สุขาสาธารณะสะอาดมีอยู่ทั่วประเทศเกาหลี และสามารถใช้ห้องสุขาในอาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านค้า หรือภัตตาคาร

4. ตามประเพณีดั้งเดิมคนเกาหลีนั่งรับประทาน และนอนบนพื้น ดังนั้น จึงควรถอดรองเท้าเสมอ ก่อนเข้าบ้านของคนเกาหลี เมื่อท่านไปเยี่ยมครอบครัวคนเกาหลีที่บ้านท่านควรสวมถุงเท้าหรือถุงน่อง เพราะการนั่งเท้าเปล่าต่อหน้าผู้มีอายุสูงกว่าถือว่าไม่สุภาพ

5. คนเกาหลีไม่ค่อยนิยม แชร์ค่าอาหารกัน ยกเว้นในกรณีพิเศษ ท่านควรเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ที่จะเป็นเจ้าภาพหรือไม่ก็เป็นแขก
6. ตามประเพณีการพูดคุยกันระหว่างมื้ออาหารมากเกินไปถือว่าไม่สุภาพ คนเกาหลีน้อมรับคำชมเกี่ยวกับรสชาติอาหาร และการบริการ การสั่งน้ำมูกในโต๊ะอาหารถือว่าไม่สุภาพ

กีฬาประเพณี
ชาวเกาหลีรักการกีฬาเป็นอย่างมาก 20 ปีมาแล้ว ที่เกาหลีเป็นเจ้าภาพการแข่งขันนานาชาติต่าง ๆ รวมทั้งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ.1988 และฟุตบอลโลก ค.ศ.2002 นอจากนี้นักกีฬาของเกาหลีก็ได้คะแนนยอดเยี่ยมในการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ

นอกจากกีฬาสมัยใหม่เช่นการชิงแชมป์นานาชาติเรือกีฬาฤดูหนาวแล้ว เกาหลียังมีการละเล่นตามประเพณีแบบชาวบ้านและกีฬาแบบต่าง ๆ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ การละเล่นหรือกีฬาประเภทนี้จะเล่นกันในโอกาสพิเศษเช่น วัดขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ วันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้าของเกาหลี) หรือวันทาโน๊ะวันที่ 5 เดือน 5 จันทรคติ
การต่อสู้ซีรึม
ซีรึม เป็นหนึ่งในกีฬาประเพณีของเกาหลีที่ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ การเล่นประกอบด้วยนักกีฬา 2 คน ที่ต้องจับเชือกคาดเอวของคู่ต่อสู้ให้มั่น และใช้พลังของตัวเองโยนคู่ต่อสู้ของตัวให้ลงพื้นให้ได้จึงจะเป็นผู้ชนะ

ในปัจจุบัน ซีรึมเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากในหมู่สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีชาวเกาหลีทั้งหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และทุก ๆ ปีก็จะมีการแข่งขันกีฬานี้บ่อย ๆ
เทควันโดเกาหลี
เทควันโดถือกำเนิดในเกาหลีและปัจจุบันเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก มันคือกีฬาที่ต้องใช้ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะแขน ขา มันไม่ได้เป็นเฉพาะศิลปินการป้องกันตัวเท่านั้น แต่มันคือการเสริมสร้างบุคลิกภาพโดยการฝึกกายและจิต เทควันโดได้เป็นกีฬาทางการในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ซิดนีย์ในปี 2000
การยิงธนู
การยิงธนู คือประเพณีแห่งศิลปะการต่อสู้และขณะเดียวกันก็เป็นการละเล่น ตั้งแต่ยุคสมัยเกาหลีโบราณ การยิงธนูเป็นการแสดงความสามารถที่สำคัญทีเดียว และได้รับการขนานนามว่าเป็นกีฬาชั้นสูง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น